วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2553

นางยักษ์ กาลี

การระงับเวรด้วยการไม่จองเวร
น หิ เวรน เวรานิ     สมฺมนฺตีธ กุทาจนํ
อเวเรน จ สมฺมนฺติ   เอส ธมฺโม สนนฺตโนฯ
ในกาลไหนๆ เวรย่อมไม่ระงับด้วยการจองเวร  แต่เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร  นี่เป็นธรรมเก่า
เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ธรรมข้อนี้ใครๆก็ต้องรู้จักไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ แต่ถามหน่อยว่ามีซักกี่คนที่เข้าใจหลักธรรมและนำมาปฏิบัตใ้ห้ได้ในชีวิตจริง ผมเองก็รู้และเข้าใจความหมาย แต่ถึงเวลามันมีเหตุให้เกิดขึ้นกับตัวเองกลับทำไม่ได้อย่างที่ปากคอยพร่ำบ่น ว่าเวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร  การผูกเวรหรือผูกใจเจ็บใครซักคนที่เขาทำให้เราไม่พอใจยอมรับเลยว่าเมื่อใดที่มันเกิดขึ้นกับเรา มันทำให้เรารู้สึกร้อนรุ่มในอกมีความอยากจะทำอะไรตอบโต้คนคนนั้นเพื่อความสะใจของเรา   แต่เมื่อได้ทำไปแล้วไม่ว่าจะเป็นการโต้เถียง หรือด่าตอบโต้ หรือทำอะไรก็ตามให้คนที่เราแค้นได้เจ็บตัวหรือเจ็บใจ ผลลัพท์ที่เกิดกับเรามันทำให้เราสบายใจ หรือมีความสุขขึ้นมั้ย, ก็ไม่เลย...กลับทำให้ปัญหาลุกลามบานปลายไปกันใหญ่  พระท่านสอนว่าให้เรารู้จักให้อภัยและแผ่เมตตาให้เขาเสมอๆความผูกใจเจ็บจะระงับลงได้ในเวลาไม่นาน....ก็จริงอย่างท่านว่าน่ะ..แต่...อยู่ที่เราจะทำตามได้มั้ย..นั่นอยู่ที่ใจและตัวเราเอง
  
   
      ที่เมืองสาวัตถี ชายหนุ่มผู้หนึ่งอาศัยอยู่กับแม่สองคน เพราะพ่อได้เสียไปนานแล้ว ตัวเขาต้องทำมาหากินเลี้ยงดูแม่ตามลำพัง ฝ่ายแม่เกิดนึกสงสารลูกอยากให้ลูกทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง จึงแนะนำให้ลูกหาเมียซักคนจะได้ช่วยแบ่งเบางานให้้ลูกชายบ้าง (ไม่รู้แบ่งเบาจริงรึปล่าว) ส่วนลูกชายบอกยังไม่อยากมีปรามแม่อยู่หลายครั้งแม่ก็ยังยืนยันคำเดิม ว่าอยากเห็นลูกมีความสุขกับคนอื่นเขาบ้าง ลูกชายเลยต้องยอมแพ้ ทำตามคำที่แม่ขอร้อง ในที่สุดก็ได้เมียที่เป็นหญิงสาวในเมืองนั้นเอง แต่เรื่องราวยังไม่จบ หญิงที่แต่งเข้ามาเมื่ออยู่กันไปกลับทราบว่าเธอเป็นหมัน ไม่สามารถมีลูกได้ ทำให้แม่เกิดกลุ้มใจเรื่องนี้อีกเพราะตนอยากให้ลูกชายมีหลานให้ตนเพื่อสืบสกุล ก็ได้ไปแนะนำลูกชายอีกว่า เมียคนนี้ไม่สามารถมีลูกให้ได้แม่คิดว่าจะไปขอเมียให้อีกคน เพื่อเราจะได้มีคนสืบสกุล ลูกชายไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้และคอยคัดค้านแม่ทุกครั้งที่พูดเรื่องนี้    ทางด้านฝ่ายเมียเมื่อแอบได้ยินแม่สามีและสามีคุยกันก็รู้ทันทีว่าไม่นานสามีตนต้องยอมทำตามคำแนะนำของแม่เป็นแน่แท้  ใจเลยคิดว่า หากสามีตนมีเมียใหม่เข้าบ้าน ตนเองคงต้องกลายเป็นหมาหัวเน่าและหมดความสำคัญในที่สุด  อย่ากระนั้นเลย เมียใหม่คนนี้ตนจะเป็นคนจัดหามาให้ดีกว่าเพื่อที่เราจะสามารถควบคุมให้อยู่ใต้อำนาจเราได้  เมื่อคิดได้อย่างนี้ นางเลยไปติดต่อหญิงสาวที่คุ้นเคยและสนิทกันกับนางให้มาเป็นเมียน้อยสามีตน เรื่องก็เลยลงเอยด้วยดี
อยู่กันแรกๆก็ดีไม่มีปัญหาอะไร แต่พอนานเข้า จิตริษยาของทางเมียหลวงที่มีต่อเมียน้อยยิ่งเพิ่มมากขึ้นๆทุกวัน ด้วยที่เมียน้อยได้รับการเอาใจใส่จากแม่สามีและสามีเป็นอย่างดี นี่ขนาดยังไม่ตั้งท้องน่ะถ้าเกิดท้องและได้ลูกเมื่อไหร่ นางคงหมดความหมายไปเลย  "ไม่ได้การแล้ว เราต้องทำอะไรซักอย่าง" เมียหลวงคิด
ในที่สุดวันที่เมียหลวงกลัวก็มาถึง เมียน้อยเริ่มตั้งครรภ์อ่อนๆทำให้ทุกคนในบ้านมีความยินดีนัก เมียหลวงที่มีความระแวงและอิจฉาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วสุดท้ายก็ได้เริ่มแผนการที่จะทำลายลูกในครรภ์ของเมียน้อย  โดยได้พูดจากับเมียน้อยซึ่งก็เป็นเด็กในคอนโทรลของตัวเองว่า"เรื่องยาบำรุงหรืออาหารการกินของเธอ พี่จะเป็นคนคอยดูและให้น่ะไม่ต้องให้น้องลำบาก"  ด้วยความไว้ใจและไม่เอะใจฝ่ายเมียน้อยก็ยอมให้เมียหลวงจัดการเรื่องอาหารการกินและยาบำรุงให้ตน  เพราะเหตุนี้เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ก็คือทางเมียน้อยพอตั้งท้องได้สองเดือนก็เกิดแท้งลูกโดยไม่ทราบสาเหตุเป็นอย่างนี้ถึงสองครั้ง  นางเริ่มผิดสังเกต ครั้นพอรู้ตัวว่าครั้งที่สามนี้จะตั้งท้องอีกครั้งก็เลยเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับไม่บอกใคร แต่ไ้ด้เล่าเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นให้พ่อแม่และญาติของตนทราบ ฝ่ายญาติๆของตนเลยลงความเห็นว่านางไม่ควรจะมองข้ามพฤติกรรมของเมียหลวง จากนี้ไปให้ระมัดระวังตัวเป็นพิเศษอย่าใว้วางใจให้มากนัก นางรับปากญาติทั้งหลายว่าจะทำตามคำแนะนำและจะคอยระวังตัวอย่างดีที่สุด